การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าโดยใช้ธงชาติไทยหรือสีแถบของธงชาติไทย

คำพิพากษาเกี่ยวกับเรื่องการประดิษฐ์รูป อักษร หรือเครื่องหมายอื่นใดลงบนผืนธง เป็นความผิดทางอาญาได้ ตัวอย่าง คำพิพากษาฎีกาที่ 3898/2525 “ เครื่องหมายพรรคการเมืองของผู้ร้องเป็นรูปวงกลม 2 วงซ้อนกัน โดยวงกลมเล็กอยู่ภายในวงกลมใหญ่ พื้นระหว่างเส้นรอบวงกลมใหญ่กับวงกลมเล็กเป็นสีขาว มีชื่อพรรคปฎิวัติกับข้อความอุดมการณ์ของพรรคลงไว้ ส่วนภายในวงกลมเล็กพื้นส่วนใหญ่ตอนบนเป็นสีฟ้า พื้นตอนล่างเป็นสีเขียวแสดงเป็นผืนนา มีรูปธรรมจักรทับด้วยพานรัฐธรรมนูญอยู่กลางวงกลมเล็ก มีแถบสีธงชาติลอยอยู่ข้างรูปธรรมจักรข้างละอัน แถบสีธงชาติแต่ละชิ้นโค้งขนานกับวงล้อของธรรมจักรและขนานกับเส้นรอบวงของวงกลมเล็ก ส่วนบนของแถบสีธงชาติแต่ละชิ้นสูงกว่ารูปธรรมจักรเล็กน้อย และส่วนล่างก็ต่างลงไปกว่ารูปธรรมจักรเล็กน้อย รูปธรรมจักรและแถบสีธงชาติไทยอยู่ในส่วนที่พื้นเป็นสีฟ้า พานรัฐธรรมนูญและซี่ธรรมจักรเป็นสีเหลือง พื้นระหว่างซี่ธรรมจักรเป็นสีขาว ลักษณะเครื่องหมายดังกล่าวของพรรคการเมืองผู้ร้องเป็นการประดิษฐ์รูปธรรมจักรทับด้วยพานรัฐธรรมนูญอยู่ในกรอบสีฟ้าในแถบสีธงชาติ ต้องห้ามตาม พระราชบัญญัติ ธง พ.ศ.2522 “
ต้องไม่กระทำการใด ๆ อันมีลักษณะเป็นการเหยียดหยามต่อธง รูปจำลองธง หรือแถบสีธงที่ได้บัญญัติกำหนดลักษณะไว้ในพระราชบัญญัติธง พ.ศ.2522 หรือตามที่กำหนดในกฎกระทรวงซึ่งออกตามความในพระราชบัญญัติธง พ.ศ.2522 มาตรา 54 ซึ่งต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ
นอกจากนั้นในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 118 ก็ได้บัญญัติไว้ด้วยว่า ผู้ใดกระทำการใด ๆ ต่อธงหรือเครื่องหมายอื่นใดอันมีความหมายถึงรัฐ เพื่อเหยียดหยามประเทศชาติ ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ
คำพิพากษาฎีกาที่ 2097/2497 จำเลยซื้อถุงเท้าซึ่งวางขายโดยมิได้นึกคิดว่าคล้ายสีธงชาติไทยรวมปรากฎตัวในที่สาธารณะสถาน เพียงเท่านี้ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาดูหมิ่นต่อธงชาติไทย การกระทำของจำเลยขาดเจตนาตามกฎหมาย
คำพิพากษาฎีกาที่ 588/2509 จำเลยเมาสุราใช้อาวุธปืนยิงธงชาติไทย เนื่องด้วยฤทธิ์สุรา มิได้เจตนาจะเหยียดหยามประเทศชาติ ไม่มีความผิดตามมาตรา 118
คำพิพากษาฎีกาที่ 5199/2533 จำเลยฉีกธงชาติไทยอันมีความหมายถึงรัฐเพื่อเหยียดหยามประเทศชาติ และยังใช้ไม้ตีทุบเกศเศียรพระพุทธรูปอันเป็นที่เคารพในทางศาสนาของพุทธศาสนิกชน อันเป็นการเหยียดหยามศาสนา อันเป็นคนละเจตนา แต่ละเจตนาเป็นความผิดในตัวเองแยกจากกันเป็นความผิดคนละกระทง แม้กระทำต่อเนื่องกัน และแต่ละกระทงดังกล่าวคือเจตนาในการทำให้เสียทรัพย์เช่นเดียวกัน จึงเป็นความผิดต่อหลายบทในแต่ละกระทงกล่าวคือ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 118,360, 90 กระทงหนึ่ง และมาตรา 206,360 ทวิ,90 อีกกระทงหนึ่ง
พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2543 มาตรา 8 ได้บัญญัติไว้ว่า เครื่องหมายการค้าที่มีหรือประกอบด้วยลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ห้ามมิให้รับจดทะเบียน คือ ….(2) ธงชาติของประเทศไทย ธงพระอิสริยยศ หรือธงราชการ…. ดังนั้นการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าที่มีรูปธงชาติไทยอยู่ในตัวเครื่องหมายการค้านั้นด้วย นายทะเบียนจึงไม่อาจรับจดทะเบียนให้ได้ทั้งตัวเครื่องหมาย
การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าที่มีหรือประกอบด้วยธงชาติของประเทศไทยนั้น กฎหมายเครื่องหมายการค้าห้ามนายทะเบียนรับจดทะเบียนโดยเด็ดขาด แต่การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าโดยมีหรือประกอบด้วยธงชาติหรือเครื่องหมายประจำชาติของรัฐต่างประเทศนั้น กฎหมายเครื่องหมายการค้าก็ห้ามนายทะเบียนรับจดทะเบียน เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ของรัฐต่างประเทศนั้น

นายพิบูล ตันศุภผล ( นบ., นบท.) นายทะเบียนเครื่องหมายการค้า

แอดไลน์