การซื้อสินค้ามือสองที่มีเครื่องหมายการค้ามาขายต่อ (Re-Sell)

เครื่องหมายการค้า-การซื้อสินค้ามือสองมีทีเครื่องหมายการค้ามาขายต่อ (re-sell)
คาพิพากษาฎีกาที่ 2817/2543 ซึ่งโจทก์ที่ 1 เป็นผู้ผลิตและเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้า โจทก์ที่ 2 เป็นผู้แทนจำหน่ายสินค้าในประเทศไทย ส่วนจำเลยเป็นผู้ซื้อสินค้าจากผู้ขายที่อยู่ในประเทศสาธารณรัฐสิงค์โปร์ซึ่งเป็นตัวแทนของโจทก์ที่ 1 ด้วยเช่นกัน ว่า
“ แม้ตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 มาตรา 44 จะให้การคุ้มครองสิทธิในเครื่องหมายการค้าของโจทก์ที่ 1 ในฐานะที่เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าคาว่า WAHL ตามที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วก็ตาม แต่ก็เป็นเพียงการคุ้มครองโดยให้สิทธิแก่โจทก์ที่ 1 แต่เพียงผู้เดียวในอันที่จะใช้เครื่องหมายการค้าสำหรับสินค้าปัตตะเลี่ยนตามที่ได้จดทะเบียนไว้ ซึ่งทาให้โจทก์ที่ 1 มีสิทธิหวงกันไม่ให้ผู้อื่นนำเครื่องหมายการค้าของโจทก์ที่ 1 ไปใช้โดยมิชอบเท่านั้น และเมื่อพิจารณาประกอบกับบทบัญญัติตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 มาตรา 4 ที่บัญญัติว่า เครื่องหมายการค้า หมายความว่า เครื่องหมายที่ใช้หรือจะใช้เป็นที่หมายหรือเกี่ยวข้องกับสินค้า เพื่อแสดงว่าสินค้าที่ใช้เครื่องหมายการค้าของเจ้าของเครื่องหมายการค้านั้นแตกต่างกับสินค้าที่ใช้เครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่น ย่อมเห็นได้ว่า วัตถุประสงค์ของการใช้เครื่องหมายการค้าตามบทบัญญัติดังกล่าวคือ การใช้เครื่องหมายการค้ากับสินค้าเพื่อแยกความแตกต่างระหว่างสินค้าของเจ้าของเครื่องหมายการค้านั้นกับสินค้าของผู้อื่น และเพื่อระบุว่าสินค้านั้นเป็นของเจ้าของเครื่องหมายการค้าดังกล่าว ซึ่งเป็นประโยชน์แก่เจ้าของเครื่องหมายการค้าในการจาหน่ายสินค้าของตน เพราะการใช้เครื่องหมายการค้ากับสินค้าเช่นนี้ ทาให้ประชาชนที่นิยมเชื่อถือในสินค้าและเครื่องหมาย การค้าของเจ้าของเครื่องหมายการค้านั้นได้อาศัยเครื่องหมายการค้าดังกล่าวในการพิจารณาเลือกซื้อ สินค้าของเจ้าของเครื่องหมายการค้านั้นได้ถูกต้องตามความประสงค์ของตน และการที่มีผู้ซื้อสินค้าของเจ้าของเครื่องหมายการค้าเพื่อนำไปจำหน่ายต่อไปก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาในการประกอบการค้า ดังนี้ เมื่อผู้ผลิตสินค้าที่เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าได้จำหน่ายสินค้าของตนไปครั้งแรกซึ่งเป็นการใช้สิทธิแต่ผู้เดียวในการใช้เครื่องหมายการค้านั้นกับสินค้าของตนเพื่อประโยชน์ในการจำหน่ายสินค้าโดยได้รับประโยชน์จากการใช้เครื่องหมายการค้านั้นจากราคาสินค้าที่จำหน่ายไปเสร็จสิ้นแล้ว จึงไม่มีสิทธิหวงกันไม่ให้ผู้ซื้อสินค้าซึ่งประกอบการค้าตามปกตินำสินค้านั้นออกจาหน่ายอีกต่อไป

แอดไลน์ การซื้อสินค้ามือสองที่มีเครื่องหมายการค้ามาขายต่อ (Re-Sell)

การซื้อสินค้ามือสองที่มีเครื่องหมายการค้ามาขายต่อ (Re-Sell)

เครื่องหมายการค้า-การซื้อสินค้ามือสองมีทีเครื่องหมายการค้ามาขายต่อ (re-sell)
คาพิพากษาฎีกาที่ 2817/2543 ซึ่งโจทก์ที่ 1 เป็นผู้ผลิตและเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้า โจทก์ที่ 2 เป็นผู้แทนจำหน่ายสินค้าในประเทศไทย ส่วนจำเลยเป็นผู้ซื้อสินค้าจากผู้ขายที่อยู่ในประเทศสาธารณรัฐสิงค์โปร์ซึ่งเป็นตัวแทนของโจทก์ที่ 1 ด้วยเช่นกัน ว่า
“ แม้ตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 มาตรา 44 จะให้การคุ้มครองสิทธิในเครื่องหมายการค้าของโจทก์ที่ 1 ในฐานะที่เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าคาว่า WAHL ตามที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วก็ตาม แต่ก็เป็นเพียงการคุ้มครองโดยให้สิทธิแก่โจทก์ที่ 1 แต่เพียงผู้เดียวในอันที่จะใช้เครื่องหมายการค้าสำหรับสินค้าปัตตะเลี่ยนตามที่ได้จดทะเบียนไว้ ซึ่งทาให้โจทก์ที่ 1 มีสิทธิหวงกันไม่ให้ผู้อื่นนำเครื่องหมายการค้าของโจทก์ที่ 1 ไปใช้โดยมิชอบเท่านั้น และเมื่อพิจารณาประกอบกับบทบัญญัติตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 มาตรา 4 ที่บัญญัติว่า เครื่องหมายการค้า หมายความว่า เครื่องหมายที่ใช้หรือจะใช้เป็นที่หมายหรือเกี่ยวข้องกับสินค้า เพื่อแสดงว่าสินค้าที่ใช้เครื่องหมายการค้าของเจ้าของเครื่องหมายการค้านั้นแตกต่างกับสินค้าที่ใช้เครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่น ย่อมเห็นได้ว่า วัตถุประสงค์ของการใช้เครื่องหมายการค้าตามบทบัญญัติดังกล่าวคือ การใช้เครื่องหมายการค้ากับสินค้าเพื่อแยกความแตกต่างระหว่างสินค้าของเจ้าของเครื่องหมายการค้านั้นกับสินค้าของผู้อื่น และเพื่อระบุว่าสินค้านั้นเป็นของเจ้าของเครื่องหมายการค้าดังกล่าว ซึ่งเป็นประโยชน์แก่เจ้าของเครื่องหมายการค้าในการจาหน่ายสินค้าของตน เพราะการใช้เครื่องหมายการค้ากับสินค้าเช่นนี้ ทาให้ประชาชนที่นิยมเชื่อถือในสินค้าและเครื่องหมาย การค้าของเจ้าของเครื่องหมายการค้านั้นได้อาศัยเครื่องหมายการค้าดังกล่าวในการพิจารณาเลือกซื้อ สินค้าของเจ้าของเครื่องหมายการค้านั้นได้ถูกต้องตามความประสงค์ของตน และการที่มีผู้ซื้อสินค้าของเจ้าของเครื่องหมายการค้าเพื่อนำไปจำหน่ายต่อไปก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาในการประกอบการค้า ดังนี้ เมื่อผู้ผลิตสินค้าที่เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าได้จำหน่ายสินค้าของตนไปครั้งแรกซึ่งเป็นการใช้สิทธิแต่ผู้เดียวในการใช้เครื่องหมายการค้านั้นกับสินค้าของตนเพื่อประโยชน์ในการจำหน่ายสินค้าโดยได้รับประโยชน์จากการใช้เครื่องหมายการค้านั้นจากราคาสินค้าที่จำหน่ายไปเสร็จสิ้นแล้ว จึงไม่มีสิทธิหวงกันไม่ให้ผู้ซื้อสินค้าซึ่งประกอบการค้าตามปกตินำสินค้านั้นออกจาหน่ายอีกต่อไป

แอดไลน์