ความแตกต่างของวัตถุอันตรายที่ต้องจดทะเบียนอย.ขึ้นทะเบียนกับกรมโรงงาน.ขึ้นทะเบียนกับกระทรวงกลาโหม.
วิธีการแบ่งแยกเบื้องต้นคือ
แบบที่ 1 / วัตถุอันตรายที่ต้องจดทะเบียนอย.ส่วนใหญ่ใช้ในครัวเรือน และการซื้อขายหาได้จากร้านค้าทั่วไป หากเกิดอันตรายจะมีผลเฉพาะบุคคลไม่ถึงกับชีวิต
แบบที่ 2 / วัตถุอันตรายที่ต้องขึ้นทะเบียนกับกรมโรงงาน. ส่วนใหญ่ใช้ในอุตสาหกรรมและการซื้อขายหาได้จากร้านค้าเฉพาะหรือผู้ผลิตเฉพาะราย หากเกิดอันตรายจะมีผลในวงกว้างและถึงกับชีวิต
แบบที่ 3 / วัตถุอันตรายที่ต้องขึ้นทะเบียนกับกระทรวงกลาโหม. ส่วนใหญ่ใช้ในอุตสาหกรรมและการซื้อขายหาได้จากร้านค้าเฉพาะหรือผู้ผลิตเฉพาะราย หากเกิดอันตรายจะมีผลในวงกว้าง กระทบต่อความมั่นคงและถึงกับชีวิต
ตัวอย่างสินค้าวัตถุอันตรายที่ต้องจดทะเบียนอย.
แบบที่ 1 / ผลิตภัณฑ์ล้างจาน ผลิตภัณฑ์ซักผ้า สารลดแรงตึงผิวชนิดไม่มีประจุ ผลิตภัณฑ์กาว ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคในสระว่ายน้ำ ผลิตภัณฑ์กำจัดแมลงที่ใช้ในบ้านเรือนหรือทางสาธารณสุข ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ฆ่าเชื้อโรค ผลิตภัณฑ์ที่มีกรด ด่าง ผลิตภัณฑ์ที่มีสารก่อมะเร็ง สารก่อกลายพันธุ์ สารที่เป็นพิษต่อระบบสืบพันธุ์ หรือสารที่ห้ามใช้
ตัวอย่างสินค้าวัตถุอันตรายที่ต้องขึ้นทะเบียนกับกรมโรงงาน.
แบบที่ 2 / วัตถุระเบิดได้ วัตถุไวไฟ วัตถุออกชิไดซ์และวัตถุเปอร์ออกไซด์ วัตถุมีพิษ วัตถุที่ทำให้เกิดโรค วัตถุกัมมันตรังสี วัตถุที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม วัตถุกัดกร่อนอันตราย วัตถุที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองอันตราย วัตถุอย่างอื่น ไม่ว่าจะเป็นเคมีภัณฑ์หรือสิ่งอื่นใด ที่อาจทำให้เกิดอันตรายแก่บุคคล สัตว์ พืช ทรัพย์ หรือสิ่งแวดล้อม
ตัวอย่างสินค้าวัตถุอันตรายที่ต้องขึ้นทะเบียนกับกระทรวงกลาโหม.
แบบที่ 3 / สารเคมีที่ใช้ทำระเบิด หรือ ใช้เป็นส่วนผสมในการทำระเบิด สารเคมีที่ใช้ในสงครามเคมี หรือ ใช้เป็นส่วนผสมในการทำสงครามเคมี
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
แบบที่ 1 / วัตถุอันตรายที่ต้องจดทะเบียนอย.พระราชบัญญัติ วัตถุอันตราย พ.ศ. ๒๕๓๕
แบบที่ 2 / วัตถุอันตรายที่ต้องขึ้นทะเบียนกับกรมโรงงาน. พระราชบัญญัติ วัตถุอันตราย พ.ศ. ๒๕๓๕
แบบที่ 3 / วัตถุอันตรายที่ต้องขึ้นทะเบียนกับกระทรวงกลาโหม. ประกาศกระทรวงกลาโหม เรื่อง กำหนดยุทธภัณฑ์ที่ต้องขออนุญาตตามพระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ.๒๕๓๐ แก้ไข พ.ศ. ๒๕๖๔
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่