Key Takeaways
- การจดสิทธิบัตร มีเป้าหมายในการคุ้มครองงานประดิษฐ์ รวมถึงงานออกแบบ ที่ถูกคิดค้นขึ้นมาใหม่ เพื่อคุ้มครองประโยชน์ในด้านการทำผลกำไรและการทำธุรกิจ โดยชิ้นงานที่สามารถนำมาจดสิทธิบัตร จะต้องเป็นสิ่งประดิษฐ์และงานออกแบบทางอุตสาหกรรมเท่านั้น
- สิทธิบัตร นั้นมีหลายแบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น สิทธิบัตรการประดิษฐ์, สิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ และอนุสิทธิบัตร ซึ่งสิทธิบัตรแต่ละประเภท จะให้ความคุ้มครองที่แตกต่างกันและมีขั้นตอนการจดสิทธิบัตรที่ไม่เหมือนกันอีกด้วย
ใครกำลังมีโปรเจกต์จะคิดค้น ประดิษฐ์ หรือออกแบบ สิ่งใดอยู่ก็ตาม ควรหาความรู้เรื่องการจดสิทธิบัตรเอาไว้เลย เพราะถือเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ สำหรับผู้ประดิษฐ์และผู้ออกแบบ เนื่องจากสิทธิบัตรจะเป็นตัวช่วยที่ใช้คุ้มครองผลงานของเรานั่นเอง วันนี้ TGC Thailand เลยจะมาแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับการจดสิทธิบัตรว่าคืออะไร? จะต้องใช้เอกสารหรือมีขั้นตอนการจดสิทธิบัตรยังไงบ้าง
การจดสิทธิบัตร คืออะไร?
ภาพ: การจดสิทธิบัตร
หลายคนอาจจะยังเข้าใจผิดอยู่ว่า ‘การจดสิทธิบัตร’ เหมือนกับ ‘การจดลิขสิทธิ์’ แต่จริง ๆ แล้ว 2 อย่างนี้มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน เพราะการจดสิทธิบัตรมีเป้าหมายในการคุ้มครองงานประดิษฐ์และงานออกแบบที่ถูกคิดค้นขึ้นมาใหม่ เพื่อคุ้มครองประโยชน์ในด้านการทำผลกำไรและการทำธุรกิจ แต่การจดลิขสิทธิ์จะเน้นคุ้มครองงานสร้างสรรค์ใหม่ที่อาจจะคล้ายกับชิ้นงานอื่น ๆ
โดยชิ้นงานที่สามารถนำมาจดสิทธิบัตรได้จะมีเพียงแค่ สิ่งประดิษฐ์และงานออกแบบทางอุตสาหกรรมเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น เครื่องจักร กรรมวิธีการผลิต อุปกรณ์ และสูตร รวมถึงงานออกแบบต่าง ๆ อย่างโทรศัพท์หรือบรรจุภัณฑ์ เป็นต้น
สิทธิบัตร มีทั้งหมดกี่ประเภท?
1. สิทธิบัตรการประดิษฐ์
ภาพ: สิ่งประดิษฐ์
เป็นการจดสิทธิบัตรสำหรับสิ่งประดิษฐ์ที่สามารถใช้งานได้หรือมีประโยชน์ใช้สอย รวมถึงกระบวนการ กรรมวิธี กลไก องค์ประกอบ และโครงสร้างต่าง ๆ โดยสิทธิบัตรการประดิษฐ์จะมีอายุทั้งสิ้น 20 ปี และจะคุ้มครองเฉพาะในประเทศที่เจ้าของสิ่งประดิษฐ์ยื่นจดเท่านั้น ซึ่งสิ่งประดิษฐ์ที่จะสามารถจดสิทธิบัตรการประดิษฐ์ได้จะต้องเข้าหลักเกณฑ์ตามนี้
- เป็นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ ที่ไม่เหมือนหรือซ้ำกับสิ่งประดิษฐ์อื่น โดยจะต้องเช็กจากฐานข้อมูลสิทธิบัตรทั้งในและต่างประเทศ และต้องเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ไม่เคยถูกเผยแพร่สาระสำคัญมาก่อน
- มีขั้นการประดิษฐ์สูงขึ้น ที่พัฒนาหรือต่อยอดทางเทคนิค เพื่อให้มีความแตกต่างจากสิ่งประดิษฐ์เดิมที่มีอยู่ โดยที่ผู้เชี่ยวชาญคนอื่น ๆ ในวงการนั้นยังไม่รู้หรือยังไม่เข้าใจ
- ใช้ในอุตสาหกรรมได้ โดยจะต้องเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่มีคุณค่าต่ออุตสาหกรรมในไทย และจะต้องไม่ก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อประชากรและประเทศชาติ
2. สิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์
ภาพ: งานออกแบบ
เป็นการจดสิทธิบัตรสำหรับงานออกแบบต่าง ๆ เพื่อคุ้มครองในเรื่องของการดีไซน์ ไม่ว่าจะเป็นสีสัน รูปลักษณ์ หรือลวดลายของผลิตภัณฑ์นั้น ๆ แต่ไม่ได้คุ้มครองในด้านการใช้งานหรือประโยชน์ใช้สอย โดยสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์จะมีอายุทั้งสิ้น 10 ปี และจะคุ้มครองเฉพาะในประเทศที่เจ้าของสิ่งประดิษฐ์ยื่นจดเท่านั้น ซึ่งงานออกแบบที่สามารถจดสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ได้จะต้องเข้าหลักเกณฑ์ตามนี้
- เป็นงานออกแบบใหม่ ที่ไม่เหมือนหรือซ้ำกับงานออกแบบเดิม โดยจะต้องเช็กจากฐานข้อมูลสิทธิบัตรทั้งในและต่างประเทศ และต้องเป็นงานออกแบบที่ไม่เคยถูกเผยแพร่สาระสำคัญมาก่อน
- ใช้ในอุตสาหกรรมหรืองานหัตถกรรมได้ โดยจะต้องเป็นงานออกแบบที่ได้รับการยอมรับในอุตสาหกรรมไทย และจะต้องไม่กระทบต่อศาสนา ความเชื่อ และไม่สื่อถึงสิ่งอบายมุขหรือสิ่งที่ลามกอนาจาร
3. อนุสิทธิบัตร
ภาพ: สิ่งประดิษฐ์
เป็นการจดสิทธิบัตรสำหรับสิ่งประดิษฐ์ที่สามารถใช้งานได้หรือมีประโยชน์ใช้สอย รวมถึงกระบวนการ กรรมวิธี กลไก องค์ประกอบ และโครงสร้างต่าง ๆ โดยอนุสิทธิบัตรจะมีอายุทั้งสิ้น 6 ปี แต่สามารถยื่นต่ออายุได้ 2 ครั้ง ครั้งละ 2 ปี หรือทั้งหมดไม่เกิน 10 ปี และจะคุ้มครองเฉพาะในประเทศที่เจ้าของสิ่งประดิษฐ์ยื่นจดเท่านั้น ซึ่งสิ่งประดิษฐ์ที่สามารถจดอนุสิทธิบัตรได้จะต้องเข้าหลักเกณฑ์ตามนี้
- เป็นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ ที่ไม่เหมือนหรือซ้ำกับสิ่งประดิษฐ์อื่น โดยจะต้องเช็กจากฐานข้อมูลสิทธิบัตรทั้งในและต่างประเทศ และต้องเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ไม่เคยถูกเผยแพร่สาระสำคัญมาก่อน
- ใช้ในอุตสาหกรรมได้ โดยจะต้องเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่มีคุณค่าต่ออุตสาหกรรมในไทย และจะต้องไม่ก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อประชากรและประเทศชาติ
ขั้นตอนการจดสิทธิบัตรแบบต่าง ๆ
ขั้นตอนการจดสิทธิบัตรการประดิษฐ์
ภาพ: การจดสิทธิบัตร
- ยื่นเอกสารเพื่อขอรับสิทธิบัตรการประดิษฐ์ พร้อมชำระค่าธรรมเนียม 500 บาท โดยเอกสารที่ต้องใช้มีดังนี้
- แบบฟอร์มคำขอรับสิทธิบัตร (แบบ สป/สผ/อสป/001-ก)
- รายละเอียดของงานประดิษฐ์ โดยจะต้องมีดีเทลครบถ้วนตามกฎหมายกำหนด
- ข้อถือสิทธิ
- บทสรุปการประดิษฐ์
- รูปเขียน (ถ้ามี)
- เอกสารอื่น ๆ (ถ้ามี) ไม่ว่าจะเป็น หนังสือรับรองนิติบุคคล สัญญาการว่าจ้าง หนังสือโอนสิทธิ หรือหนังสือมอบอำนาจ เป็นต้น
2. หลังยื่นคำขอเรียบร้อยแล้ว ในกรณีที่มีอะไรต้องแก้ไข เจ้าหน้าที่จะแจ้งกับคนที่ยื่นคำขอ เพื่อทำการแก้ไขภายใน 90 วัน และจะต้องใช้แบบฟอร์มคำขอแก้ไขเพิ่มเติม (แบบ สป/สผ/อสป/003-ก) พร้อมชำระค่าธรรมเนียมอีกครั้ง
3. เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว คนยื่นคำขอจะต้องชำระค่าธรรมเนียมสำหรับการประกาศโฆษณาเพิ่มอีก 250 บาท พร้อมจัดส่ง คำขอรับสิทธิบัตรชุดล่าสุด คำแปลข้อถือสิทธิ และบทสรุปการประดิษฐ์ (ภาษาอังกฤษ) ไปด้วยเพิ่มเติม
4. หลังประกาศโฆษณาเรียบร้อยแล้ว เจ้าของสิ่งประดิษฐ์จะต้องยื่นขอให้ตรวจสอบการประดิษฐ์ของตัวเอง พร้อมชำระค่าธรรมเนียมอีก 250 บาท โดยใช้แบบฟอร์มคำขอให้ตรวจสอบการประดิษฐ์ (แบบ สป/อสป/005-ก) ภายในเวลา 5 ปี
5. หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบว่า เคยมีสิ่งประดิษฐ์แบบเดียวกันหรือคล้ายกันหรือไม่ ถ้าไม่ก็จะแจ้งให้เจ้าของสิ่งประดิษฐ์เข้ามาชำระค่าธรรมเนียม 500 บาท และดำเนินการออกสิทธิบัตรต่อไป
ขั้นตอนการจดสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์
ภาพ: การจดสิทธิบัตร
- ยื่นเอกสารเพื่อขอรับสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ พร้อมชำระค่าธรรมเนียม 250 บาท โดยเอกสารที่ต้องใช้มีดังนี้
- แบบฟอร์มคำขอรับสิทธิบัตร (แบบ สป/สผ/อสป/001-ก)
- คำพรรณนาแบบผลิตภัณฑ์ (ถ้ามี)
- ข้อถือสิทธิ
- รูปเขียน
- เอกสารอื่น ๆ (ถ้ามี) ไม่ว่าจะเป็น หนังสือรับรองนิติบุคคล สัญญาการว่าจ้าง หนังสือโอนสิทธิ หรือหนังสือมอบอำนาจ เป็นต้น
2. หลังยื่นคำขอเรียบร้อยแล้ว ในกรณีที่มีอะไรต้องแก้ไข เจ้าหน้าที่จะแจ้งกับคนที่ยื่นคำขอ เพื่อทำการแก้ไขภายใน 90 วัน และจะต้องใช้แบบฟอร์มคำขอแก้ไขเพิ่มเติม (แบบ สป/สผ/อสป/003-ก) พร้อมชำระค่าธรรมเนียมอีกครั้ง
3. เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว คนยื่นคำขอจะต้องชำระค่าธรรมเนียมสำหรับการประกาศโฆษณาเพิ่มอีก 250 บาท พร้อมจัดส่ง คำขอรับสิทธิบัตรชุดล่าสุด ไปด้วยเพิ่มเติม
4. หลังประกาศโฆษณาครบ 90 วันเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบว่า เคยมีแบบผลิตภัณฑ์ที่เหมือนหรือคล้ายกันหรือไม่ ถ้าไม่ก็จะแจ้งให้เจ้าของแบบผลิตภัณฑ์เข้ามาชำระค่าธรรมเนียม 500 บาท และดำเนินการออกสิทธิบัตรต่อไป
ขั้นตอนการจดอนุสิทธิบัตร
ภาพ: การจดสิทธิบัตร
- ยื่นเอกสารเพื่อขอรับอนุสิทธิบัตร พร้อมชำระค่าธรรมเนียม โดยเอกสารที่ต้องใช้มีดังนี้
- แบบฟอร์มคำขอรับสิทธิบัตร (แบบ สป/สผ/อสป/001-ก)
- รายละเอียดของงานประดิษฐ์ โดยจะต้องมีดีเทลครบถ้วนตามกฎหมายกำหนด
- ข้อถือสิทธิ
- บทสรุปการประดิษฐ์
- รูปเขียน (ถ้ามี)
- เอกสารอื่น ๆ (ถ้ามี) ไม่ว่าจะเป็น หนังสือรับรองนิติบุคคล สัญญาการว่าจ้าง หนังสือโอนสิทธิ หรือหนังสือมอบอำนาจ เป็นต้น
2. หลังยื่นคำขอเรียบร้อยแล้ว ในกรณีที่มีอะไรต้องแก้ไข เจ้าหน้าที่จะแจ้งกับคนที่ยื่นคำขอ เพื่อทำการแก้ไขภายใน 90 วัน และจะต้องใช้แบบฟอร์มคำขอแก้ไขเพิ่มเติม (แบบ สป/สผ/อสป/003-ก) พร้อมชำระค่าธรรมเนียมอีกครั้ง
3. เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว คนยื่นคำขอจะต้องชำระค่าธรรมเนียมสำหรับการรับจดทะเบียนและออกอนุสิทธิบัตร รวมถึงการประกาศโฆษณาอีก 500 บาท
4. หลังประกาศโฆษณาเรียบร้อยแล้ว บุคคลอื่นที่มีส่วนได้เสียสามารถยื่นขอให้ตรวจสอบการประดิษฐ์ได้ โดยใช้แบบฟอร์มคำขอให้ตรวจสอบการประดิษฐ์ (แบบ สป/อสป/005-ก) ภายในเวลา 1 ปี หลังประกาศโฆษณา
สถานที่และวิธียื่นขอจดสิทธิบัตร
ภาพ: การขอจดสิทธิบัตร
สำหรับเจ้าของสิ่งประดิษฐ์หรืองานออกแบบที่ต้องการจดสิทธิบัตร สามารถยื่นคำขอได้ที่
- สำนักสิทธิบัตร กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ (ชั้น 3)
- สำนักงานพาณิชย์ประจำจังหวัดนั้น ๆ
ส่วนวิธีการยื่นขอเพื่อจดสิทธิบัตร สามารถทำได้ 2 วิธีด้วยกัน คือ
- ยื่นคำขอโดยตรงกับพนักงานเจ้าหน้าที่ พร้อมชำระค่าธรรมเนียม
- ยื่นคำขอผ่านทางไปรษณีย์ พร้อมชำระค่าธรรมเนียมผ่านทางธนาณัติ โดยสั่งจ่ายในนาม กรมทรัพย์สินทางปัญญา
บริการรับจดสิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตร จาก TGC Thailand
“ สะดวกสบาย ไม่ยุ่งยาก ”
สำหรับผู้ประดิษฐ์หรือผู้ออกแบบคนไหนกำลังต้องการจดสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตร แต่ไม่มีเวลาเตรียมเอกสารหรือดำเนินการต่าง ๆ ด้วยตัวเอง สามารถมาใช้บริการกับเรา TGC Thailand ได้
- เชี่ยวชาญและชำนาญ จึงสามารถดำเนินการทุกขั้นตอนได้อย่างถูกต้อง
- รวดเร็วและประหยัดเวลา ด้วยประสบการณ์การจดทะเบียนกว่า 20 ปี
ทั้งหมดนี้ คือ ขั้นตอนการจดสิทธิบัตรแบบต่าง ๆ ที่น่าจะทำให้ทุกคนรู้ว่า การจดสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตรนั้นต้องทำยังไงและต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง และถ้าเจ้าของสิ่งประดิษฐ์คนไหนไม่มีเวลาแต่ต้องการยื่นคำขอเพื่อจดสิทธิบัตร ก็สามารถมาใช้บริการรับจดสิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตรกับเรา TGC Thailand ได้ ซึ่งเป็นช่องทางที่ทั้งง่าย สะดวก แถมยังช่วยประหยัดเวลาได้อีกด้วย
TGC Thailand ผู้ให้บริการรับจดสิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตร โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ
- ด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปี จึงมั่นใจได้ในความเชี่ยวชาญและคุณภาพการบริการ
- รับความคุ้มครองโดยไม่ต้องเตรียมเอกสารเอง ด้วยบริการรับจดสิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตร
- มั่นใจได้ในความถูกต้องทุกขั้นตอนกับการบริการรับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่