ความแตกต่างระหว่างการจดทะเบียนโลโก้ จดชื่อแบรนด์ จดเครื่องหมายการค้า
จดทะเบียนโลโก้ คืออะไร?
โลโก้เรามักจะสื่อถึงภาพ เช่น ภาพนก ภาพโลโก้เราจะอ่านด้วยคำพูดไม่ได้ แต่เรามองเห็นได้ด้วย
สายตาเพื่อสร้างการจดจำด้วยตา และ ทำให้ผู้ใช้สินค้าทราบและเข้าใจว่าสินค้า บริการนี้มีแหล่งที่มาจากที่ไหน บางครั้งภาพปรากฎก็สร้างการจดจำและเป็นการสื่อสารที่ดีกว่าการอ่านด้วยปาก
จดทะเบียนชื่อแบรนด์ จดแบรนด์ คืออะไร?
จดแบรนด์เรามักจะสื่อถึงข้อความที่อ่านได้ เช่น คำว่า ศรแดง ที่เราจะอ่านได้ด้วยปาก เพื่อสร้างการจดจำด้วยหู และ ทำให้ ผู้ใช้สินค้าทราบและเข้าใจว่าสินค้า บริการนี้มีแหล่งที่มาจากที่ไหน บางครั้งเสียงเรียกขานก็เป็นการสื่อสารที่ดีกว่าภาพปรากฎ
กล่าวโดยสรุปก็คือ
โลโก้ จะสื่อถึงภาพปรากฎ มองเห็นได้ด้วยตา
แบรนด์ จะสื่อถึงเสียงเรียกขาน อ่านได้ด้วยปาก
การจดทะเบียนเราสามารถยื่นจดทะเบียนได้ ดังนี้
ก.จดทะเบียนโลโก้ ก็คือนำภาพปรากฎมาจดทะเบียน รวม 1 ก้อน
ข.จดแบรนด์ ก็คือ นำเสียงเรียกขาน คำอ่าน มาจดทะเบียน รวม 1 ก้อน
ค.จดทะเบียนโลโก้ และ จดแบรนด์ ก็คือนำภาพปรากฎมาจดทะเบียน และ นำเสียงเรียกขาน คำอ่าน มาจดทะเบียน รวมกัน 1 ก้อน โดยเอามารวมกัน
ซึ่งการจดทะเบียนตามข้อ ก ข ค นั้น หมายถึงทั้งก้อนที่รวมกันและเรียกเป็นทางการว่าเป็นการจดทะเบียนเป็นเครื่องหมายการค้า (Trademark) นั่นเอง
สำหรับโอกาสที่จะจดทะเบียนผ่านและได้รับการอนุมัติ มีดังนี้
ก.จดทะเบียนโลโก้จะมีเอกลักษณ์ในระดับ A+ เช่น ภาพนางเงือกของสตาร์บัค ซึ่งหากโลโก้ไม่ซ้ำกับของบุคลอื่นจะได้รับการจดทะเบียนแน่นอน เพราะภาพโลโก้โอกาสที่จะซ้ำกันน้อยมาก เพราะเป็นการสร้างสรรคด้วยตนเอง
ข.จดแบรนด์ ถือว่ามีเอกลักษณ์ในระดับ A เพราะทุกเครื่องหมายการค้าจะต้องมีเสียงเรียกขาน หรือ คำอ่าน เพราะถ้าไม่มีเสียงเรียกขาน หรือ คำอ่าน ผู้ใช้สินค้าก็จะเรียกให้เอง เช่น ลูกศรสีแดง เดิมไม่ได้จดแบรนด์ แต่จดทะเบียนโลโก้ เท่านั้น จนผู้ใช้สินค้าเรียกกันเองว่า ศรแดง ต่อมาเจ้าของสินค้าก็ได้นำคำว่า ศรแดง มาจดแบรนด์ เพื่อคุ้มครองสิทธิ เพราะถ้าไม่มีเสียงเรียกขานผู้ใช้สินค้าจะไม่สามารถสื่อสารได้เลย
จดแบรนด์โอกาสที่จะซ้ำกันมีอยู่บ้าง เพราะเป็นการนำคำอ่านมาใช้ การผสมคำอ่าน ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะซ้ำกันโดยบังเอิญ และ ไม่เคยพบเห็นกันมาก่อน