ปัญหาลิขสิทธิ์ระหว่างผู้แต่งเพลงกับค่ายเพลง
จากกรณี เวสป้า อิทธิพล ที่โดนค่ายดัง อาร์เอส ฟ้องร้อง ข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์เพลงที่ตนเองแต่ง
เวสป้า อิทธิพล อ้างว่า การซื้อขายนี้ผู้ซื้อมีสิทธิ์จะนำเนื้อร้อง ทำนองดังกล่าวไปผลิตเป็นแผ่นเสียง และนำไปทำโสตทัศนวัสดุขึ้นมาจำหน่ายในนามของผู้ซื้อเองตลอดไป และผู้ขายจะไม่นำสิทธิ์ในเนื้อร้องไปขายใครอีก ถ้าไปขายคนอื่นหรือผิดสัญญา ผู้ขายต้องเสียเงิน 100,000 บาท
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗
มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัตินี้
ดนตรีกรรม หมายความว่า งานเกี่ยวกับเพลงที่แต่งขึ้นเพื่อบรรเลงหรือขับร้องไม่ว่าจะมี
ทำนองและคำร้องหรือมีทำนองอย่างเดียว และให้หมายความรวมถึงโน้ตเพลงหรือแผนภูมิเพลงที่ได้แยกและเรียบเรียงเสียงประสานแล้ว
มาตรา ๘ ให้ผู้สร้างสรรค์เป็นผู้มีลิขสิทธิ์ในงานที่ตนได้สร้างสรรค์ขึ้นภายใต้เงื่อนไขดังต่อไปนี้
มาตรา ๑๐ งานที่ผู้สร้างสรรค์ได้สร้างสรรค์ขึ้นโดยการรับจ้างบุคคลอื่น ให้ผู้ว่าจ้างเป็นผู้มี
ลิขสิทธิ์ในงานนั้น เว้นแต่ผู้สร้างสรรค์และผู้ว่าจ้างจะได้ตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่น
ประเด็นคือ ระหว่างผู้แต่งเพลงกับค่ายเพลง ต้องตกลงกันให้ชัดเจนว่า กรรมสิทธิ์ในเพลงนั้นเป็นของใครหลังจากแต่งเพลงแล้ว
กรณีที่ 1 ผู้แต่งเพลง แต่งเพลงให้กับค่ายเพลง และ ได้รับค่าตอบแทน โดยเงินนั้นทำให้กรรมสิทธิ์ในเพลงนั้นเป็นของค่ายเพลง
กรณีที่ 2 ผู้แต่งเพลง แต่งเพลงให้กับค่ายเพลง และ ได้รับค่าตอบแทน โดยเงินนั้นไม่ทำให้กรรมสิทธิ์ในเพลงนั้นเป็นของค่ายเพลง กรรมสิทธิ์ยังอยู่กับผู้แต่งเพลง แต่ค่ายเพลงมีสิทธิในการทำซ้ำได้ และ นำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ ตามเงื่อนไขที่กำหนด
ต้องแยก 2 ประเด็นนี้ให้ชัดก่อนหรือตกลงกันให้ชัดก่อนที่จะพิจารณาประเด็นอื่น และ ข้อตกลงส่วนใหญ่จะต้องเป็นไปตามสัญญา เช่น กรรมสิทธิ์ในเพลงนั้นเป็นของค่ายเพลงแต่ผู้แต่งเพลง มีสิทธินำไปร้องได้ หาประโยชน์เชิงพาณิชย์ได้ เป็นต้น
ดังนั้น กรณี เวสป้า อิทธิพล ที่อ้างว่าตกลงกันว่า ขายคนอื่นหรือผิดสัญญา ผู้ขายต้องเสียเงิน 100,000 บาท เป็นค่าปรับ คล้ายว่ากรรมสิทธิ์ในเพลงยังเป็นของเวสป้า อิทธิพล หากขายโดนค่าปรับ ถ้าเพลงเป็นของค่ายเพลงจริง เวสป้า อิทธิพล จะนำไปขายและเสียค่าปรับได้อย่างไร ซึ่งต้องนำข้อตกลงระหว่างเวสป้า อิทธิพล กับ ค่ายเพลงมาพิจารณากันให้ละเอียดอีกครั้ง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
